เลือกฐานรากบ้านดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
บ้านจะมั่นคงแข็งแรง ต้องเริ่มพิจารณาตั้งแต่ฐานรากเลย เนื่องจากฐานรากเป็นองค์ประกอบของอาคารที่รับน้ำหนักอาคารและสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนตัวบ้าน แล้วถ่ายน้ำหนักลงไปยังพื้นดิน หากเลือกใช้ไม่ถูกต้องอาจเกิดปัญหาบ้านทรุด เกิดรอยร้าวตามจุดต่างๆ ของอาคาร หรือทำให้เกิดความเสียหายอื่นๆได้
บ้านสำเร็จรูป บ้านน็อกดาวน์ หรือบ้านโมดูลาร์ ก็ต้องพิจารณาเลือกชนิดของฐานรากให้เหมาะสมเช่นกัน โดยวิศวกรจะเป็นผู้ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างเพื่อนำไปคำนวณหารูปแบบที่เหมาะสม แต่ในฐานะเจ้าของบ้านก็ควรรู้เช่นกัน มาดูชนิดและรูปแบบเบื้องต้นที่ควรรู้ เพื่อใช้เลือกให้เหมาะสมกับบ้านสำเร็จรูป บ้านน๊อกดาวน์ หรือบ้านโมดูลาร์ ที่จะสร้างกัน
ฐานรากแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- ฐานรากแผ่ มีลักษณะเป็นผืนคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความหนา ความกว้างและยาวของฐานรากแผ่จะขึ้นอยู่กับความสามารถของดินที่จะรับน้ำหนัก โดยในเขตภาคกลางหรือกทม.ดินจะมีความสามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 2 ตัน/ตารางเมตร ส่วนในภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ ดินจะสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าเนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นภูเขา หรือชั้นหิน จะสามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 8 – 15 ตัน/ตารางเมตร ทำให้พบว่าการก่อสร้างบ้านในแถบนี้มักจะนิยมสร้างฐานรากแบบแผ่มากกว่าในภาคกลางและกทม.
- ฐานรากเข็ม จะใช้วิธีถ่ายน้ำหนักอาคารผ่านทางเสาเข็ม โดยอาศัยแรงเสียดทานของเสาเข็มกับดินเพื่อพยุงน้ำหนัก ความสามารถในการรับน้ำหนักจะขึ้นอยู่กับความยาวและจำนวนเสาเข็มที่ใช้ ทางวิศวกรจะเป็นผู้คำนวณปริมาณและความยาวเสาเข็มที่เหมาะสมกับน้ำหนักในแต่ละจุด
สำหรับบ้านสำเร็จรูป บ้านน็อกดาวน์ หรือบ้านโมดูลาร์ ที่มีขนาดและน้ำหนักไม่มาก มักนิยมใช้ความยาวเสาเข็มไม่เกิน 6 เมตร เนื่องจากหาซื้อได้ง่ายและขนส่งสะดวก
ชนิดของเสาเข็ม- เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ผลิตจากคอนกรีตที่เสริมด้วยลวดอัดแรง ทำให้แข็งแรงมากขึ้น มีให้เลือกหลายหน้าตัด เช่น สีเหลี่ยม ตัวไอ หรือหกเหลี่ยม แต่ละหน้าตัดจะมีความสามารถในการรับน้ำหนักแตกต่างกัน ยิ่งพื้นที่หน้าตัดมากก็จะทำสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่รับแรงฝืดมาก และต้องนำไปคำนวณร่วมกันความยาวของเสาเข็มด้วย โดยจะมีความยาวแตกต่างกันไปเพื่อให้เลือกใช้ ตั้งแต่ 1.00 ม. – 30.00 ม เลยทีเดียว (แต่ถ้าเป็นบ้านมักใช้ความยาว 1.00 - 6.00 ม.) และจะใช้ร่วมกับวิธีตอก สามารถตอกโดยใช้ปั้นจั่น แบคโฮกดเสาเข็ม หรือใช้การขย่มด้วยแรงงานคน ซึ่งแต่ละแบบทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักไม่เท่ากัน ข้อดีคือราคาไม่แพงมาก ผู้รับเหมามีความชำนาญในการทำงาน เนื่องจากเป็นที่แพร่หลายและใช้กันมานาน แต่หน้างานมักจะเลอะเทอะ และมีเสียงดังจากการตอก รวมทั้งแรงสั่นสะเทือนที่สามารถทำให้อาคารใกล้เคียงเสียหายได้ ถ้าก่อสร้างในเมืองที่มีอาคารหนาแน่น มักหลีกเลี่ยงการก่อสร้างรูปแบบนี้
- เสาเข็มไมโครไพล์ (Micro pile) ลักษณะเสาเข็มเป็นท่อนขนาดสั้น มักจะมีความยาวที่ 1.50 เมตร หน้าตัดที่นิยมใช้กันคือ ไอ18 ไอ22 และไอ26 ด้วยขนาดที่เล็กทำให้สามารถทำงานในที่แคบได้ ด้วยการใช้เครื่องตอกไมโครไฟล์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก และสามารถตอกไมโครไพล์ต่อกันได้ลึก 18-21 ม. ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มาก นิยมใช้ในกทม. เหมาะสำหรับงานต่อเติมที่มีหน้างานไม่กว้างมาก ราคาปานกลางถึงสูง
- เสาเข็มสกรู (Screw Pile) ผลิตจากเหล็กเคลือบด้วยสังกะสี หรือที่เรียกว่ากัลวาไนซ์ เพื่อทนต่อสนิมที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากฝังอยู่ในดินต้องเผชิญกับความชื้นตลอดเวลา ลักษณะเสาเข็มจะคล้ายกับสกรูตามชื่อ คือมีปลายแหลมและมีเกลียวโดยรอบตัวเสา รับน้ำหนักด้วยครีบของเกลียวเสาที่เจาะลงไปในพื้นดิน เสาเข็มสกรูจะใช้วิธีเจาะโดยใช้สว่านเจาะลงไปในดิน มีขนาดให้เลือกหลากหลายขนาดตามที่ผู้ผลิตผลิตออกมา มีข้อดีคือสามารถทำงานได้เร็ว หน้างานจะไม่ค่อยสกปรกและเสียงค่อนข้างเบา เหมาะกับงานเร่งรีบหรืองานต่อเติมที่ไม่ต้องการให้พื้นที่ก่อสร้างเลอะเทอะมากนัก มีราคาที่สูง
- เสาเข็มเจาะ เป็นเสาเข็มที่ต้องทำหน้างานก่อสร้าง โดยการนำอุปกรณ์คล้ายสว่านเจาะลงไปในดินให้เป็นโพรงตามแนวดิ่ง ความลึกตามที่วิศวกรกำหนด หลังจากนั้นจึงใส่เหล็กเสริมและเทคอนกรีตลงไปเพื่อหล่อเป็นแท่งเสาเข็ม กระบวนการทำจะมีทั้งแบบแห้งและแบบเปียก ซึ่งงานในรูปแบบบ้านมักจะใช้เป็นแบบแห้งเนื่องจากกรรมวิธีไม่ซับซ้อน ข้อดีคือสามารถรับน้ำหนักได้มาก เสียงเบา เหมาะสำหรับทำบ้านขนาด 2 ชั้นในเมืองที่ไม่ต้องการแรงสั่นสะเทือนเหมือนการตอก แต่ค่าใช้จ่ายต่อต้นค่อนข้างสูง
สำหรับการสร้างบ้านสำเร็จรูป บ้านน็อกดาวน์ หรือบ้านโมดูลาร์ ที่ทางโมดูลักซ์แนะนำ สถานที่ก่อสร้างมกจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบฐานราก รองลงมาจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น ถ้าเป็นการก่อสร้างในกทม. มักจะเลือกรูปแบบที่แรงสั่นสะเทือนน้อย เช่น เสาเข็มสกรู เสาเข็มเจาะ การกดเข็มด้วยแบคโฮลหรือกดเสาด้วยแรงคน แต่หากเป็นบ่างจังหวัดที่ดินค่อนข้างแข็ง รับน้ำหนักได้เยอะมักจะเลือกฐานรากแบบแผ่มากกว่า
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่เราควรทราบ แต่หากต้องการสร้างจริงๆ ควรปรึกษาวิศวกร เนื่องจากจะมีการคำนวณอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
หากต้องการสร้างบ้านสำเร็จรูป บ้านน็อกดาวน์ หรือบ้านโมดูลาร์ ทางโมดูลักซ์เรามีวิศวกรให้บริการเรื่องการออกแบบฐานรากที่เหมาะสมกับบ้าน เพื่อให้ได้ความแข็งแรง คงทน และประหยัดงบประมาณ รวมทั้งทางโมดูลักซ์ยังรับทำฐานรากให้ด้วย เรียกว่าจบครบวงจรในที่เดียวเลย
สนใจติดต่อเรื่องบ้านสำเร็จรูปโมดูลักซ์ได้ที่ โทร 080-306-0820 ไลน์ @modulux อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
---------------------------------------------------------------------------------
ที่เกี่ยวข้อง